Sunday, October 28, 2007

เที่ยวตุรกี : Turkey trip

ตุรกี ประเทศสองทวีป ที่มีส่วนนึงอยู่ฝั่งเอเชียและอีกส่วนอยู่ฝั่งยุโรป เป็นอีกประเทศหนึ่งที่อยากไปเที่ยว และแล้วก็ได้ไปมาเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่ได้ไปแค่กรุงอิสตันบูล เพราะช่วงนี้ลางานไม่ได้ เลยหาไปแบบทริปสั้น ๆ

ออกเดินทางเช้ามืด หมอกลงหนามาก กว่าจะถึงสนามบิน ลุ้นตัวโก่ง ไปถึงอิสตันบูลก็เที่ยงๆ ได้ กว่าจะเดินหาที่พักอีกก็เริ่มจะเย็นแล้ว เพราะสนามบินที่ไปลงที่ Istanbul Sabiha Gocken International Airport ที่ไกลจากตัวเมืองและที่พักหลักพอสมควร เพราะตัวสนามบินอยู่ฝั่งเอเชีย ส่วนที่พักเราอยู่ฝรั่งยุโรป ก็ใช้เวลาเดินทางไปเกือบสองชั่วโมงได้ ที่พักหายากใช้ได้ แต่พอคุ้นเคยแล้วก็จัดว่าอยู่ไม่ไกลจากโซน ท่องเที่ยวบริเวณ old town เท่าไหร่นัก มื้อแรกของวันนั้นคือมื้อเที่ยง ก็เลยฟาดอาหารตุรกีแท้ดั้งเดิมซะ ไม่พ้น kebap กับชาดำที่ท่าเรือข้ามฝากนั่นเอง

วันแรกก็เดินไปสำรวจ แถว new town ที่อยู่อีกฝากนึง ก็เดินไปหาของกิน ไกลพอควร ผ่าน Galata Tower และเดินต่อไปย่านที่เค้าเดิน shopping กับย่านขายอาหารทะเลยามกลางคืน ลักษณะก็คล้าย ๆ ที่เคยไปกินที่เบลเยี่ยม ร้านเยอะแยะไปหมด เลือกไม่ถูกเลย ก็เลยตัดสินใจกลับ ไปหากินแถวสะพานแทน เลือกกันมาได้ร้านนึง แต่สุดท้ายก็ไม่วายเดินชาวเติร์กหลอกไปหลายกะตังค์ กินไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่ แต่ก็เอาละ เรียบร้อยก็กลับไปนอนสลบไสลกัน

วันถัดไปก็เที่ยวแถวที่พักคือเมืองเก่า เดินจากที่พักไปนิดนึงก็ถึงมัสยิด Hagia Sophia ซึ่งเดิมเคยเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในอดีตตั้งแต่ยุค คศ 500 กว่า เป็นเวลาร่วมพันปี แต่ตอนหลังเมื่อมุสลิมเค้าครอบครอง
ดินแดน ก็ได้กลายร่างเป็นมัสยิดไป จนกระทั่งปัจจุบัน เพราะฉะนั้นตัวมัสยิดเองยังคงมีร่องรอยความเป็นโบสถ์ของคริสต์หลงเหลืออยู่พอสมควร เช่น ภาพพระเยซูที่ประตู ภาพโมเสกของแม่พระและพระเยซูตามผนังชั้นบน ๆ

แล้วก็เดินไปเที่ยวดูเมืองใต้บาดาล Basilica Cistern ที่เป็นแหล่งน้ำใต้ดินเลี้ยงเมืองในยุคไบเซนไทน์ ดูแล้วทำให้ทึ่งกับความสามารถของคนสมัยก่อนจริงๆ ที่ช่างคิดช่างสร้างได้ขนาดนี้

ต่อจากนั้นก็เดินไปชมย่านตลาดเก่าของเมือง ที่จริงๆ แล้วก็อยู่แถวๆ ที่พักเราอีกนั่นแหละ เป็นตลาดใหญ่สมชื่อ grand bazaar จริงๆ เพราะให้เดินเป็นวันๆ ก็คงไม่ทั่ว แถมยังจะหลงทางอีก ขายของเยอะแยะมากมาย มีหลายมุม เทียบไปคงคล้ายจตุจักรบ้านเรา แต่เป็นแบบมีหลังคา แล้วก็ไปต่ออีกตลาดชื่อตลาดอียิปต์ อันนี้ค่อยเดินง่ายหน่อย ของกินเยอะ เลยได้ turkish delight มากินกัน อร่อยดีจริง ๆ

ส่วนวันที่สามก็ไปเที่ยว Topkapi palace ที่เป็นวังของสุลต่านสมัยก่อน ก็ใหญ่โตพอสมควร ได้เข้าไปดูส่วนฮาเล็มด้วย ว่ากันว่าในบางรัชสมัยของสุลต่านบางองค์ มีสาวๆ ในฮาเล็มถึง 300 กว่าคนทีเดียว ศิลปะที่นี่ก็ออกเป็นลักษณะโดม แบบมัสยิสเป็นส่วนใหญ่ บวกกับเสายอดแหลม ๆ ในส่วนของวังไม่ค่อยมีรายละเอียดของวังเดิมให้ดูมาก แต่ก็มีการจัดแสดงสมบัติของสุลต่านให้ดูตามห้องต่างๆ แทน

บ่ายกะว่าจะล่องเรือกัน แต่ก็หารอบเรือไม่ได้ เลยแวะไปฝั่งเมืองใหม่ ผ่านวังใหม่ แต่ไม่ได้เข้าไปดูเพราะเย็นมากแล้ว วังปิด กะว่าจะเดินไปดูสะพานข้ามช่องแคบ Bosporus แต่ก็หมดแรงเดินไปไม่ถึง เริ่มปวดท้องอีกแล้วด้วย ไปแวะพักแถมมหาวิทยาลัยอะไรจำไม่ได้ริมน้ำ นั่งดูเค้าตกปลากัน คนบ้านนี้ชอบตกปลากันจริง ๆ เห็นตามสะพาน ตามท่าน้ำเยอะแยะไปหมด แล้วก็ฟาดสายไหมไปอันนึง แล้วก็กลับไปหามื้อเย็นกินแถมที่พัก กินข้าวหน้าเนื้ออร่อยดีเหมือนกัน ให้น้ำพริกแถมมาด้วย ยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่ แล้วก็กลับที่พัก มัวแต่ซ่อมทีวีกว่าจะได้นอนก็ตีหนึ่งกว่า ๆ ได้

เช้ามาก็เตรียมตัวเดินทางกลับกัน เพราะเครื่องออกเที่ยง เลยไม่ได้มีเวลาแวะไปไหน สรุปว่าก็เป็นทริปสั้น ๆ ที่ประทับใจทีเดียว เพราะได้มีโอกาสไปเยือนประเทศที่อยากไป สมใจอยาก ได้ดูศิลปะแปลก ๆ แบบมุสลิม ๆ อาหารและขนมอร่อย ๆ แบบตุรกี จริง ๆ ตุรกียังมีเมืองอื่น ๆ ที่น่าเที่ยวอีกมาก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปเที่ยวเมืองอื่น ๆ ดูบ้างเหมือนกัน การคมนาคมก็สะดวกในระดับหนึ่ง ที่นี่มีทั้งรถราง รถเมล์ เรือเป็นหลัก แต่จะไปเทียบกับกลุ่มประเทศยุโรปคงยังสู้ไม่ได้ ออกจะคล้ายเมืองไทยมากกว่า ทั้งคนและคมนาคม แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังดีกว่าเมืองไทยที่ของเค้ายังเป็นระบบเดียวกัน ไม่ใช่ต่างบริการก็ต่างระบบ ส่วนผู้คนก็มีทั้งที่ดีและไม่ดีเป็นปกติ ที่จ้องจะโกงนักท่องเที่ยวก็มี ที่บริการอย่างดี ช่วยเหลือบอกทางก็มีเยอะ โดยรวมแล้วจะออกคล้ายฝรั่งเอเชียมากกว่ายุโรป เลยไม่แปลกที่โดนอคติโดนกีดกันไม่ให้เข้ากลุ่ม EU

0 Comments:

Post a Comment

<< Home